จังหวะทำประตูแบบชัดเจนหาได้ยากยิ่งในคืนวันพุธที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนอาร์เซนอลที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งเกมก็จบลงด้วยการเสมอกันไปแบบไร้สกอร์
เกมนี้เริ่มต้นกันอย่างสนุก และเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่น่าจะทำสกอร์ทีมเก่าของเขาได้ในนาทีที่ 2 แต่ลูกยิงของเขาก็ไปติดเซฟของ วอจเซียซ เซคเซสนี่ย์ แบบสบายๆ ขณะที่ทางฝั่งทีมปืนใหญ่ก็เกือบจะได้ประตูเช่นกันจากจังหวะของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ซึ่งโขกหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ฮวน มาต้า ซึ่งถูกส่งลงเล่นทางฝั่งซ้ายทำอะไรไม่ค่อยได้นัก แต่เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้วยลูกจ่ายทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี่หลุดไปยิงด้วยขวาหลุดกรอบออกไปในนาทีที่ 19 จากนั้นอีกไม่นานชิรูด์ก็ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกเหมือนเดจาวูเมื่อเขายิงเฉียดเสาประตูของ ดาบิด เด เคอา ไปเป็นครั้งที่ 2
ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสมีจังหวะปะทะกับ ราฟาเอล ดา ซิลวา จนแบ็คขวาปีศาจแดงมีอาการบาดเจ็บที่ไหล่ จากนั้นในช่วงพักครึ่งเขาก็ถูกเปลี่ยนตัวออกให้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ลงไปเล่นแทน
ทั้ง 2 ทีมต่างเริ่มต้นครึ่งหลังกันด้วยความระมัดระวัง เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะใช้เกมสวนกลับเล่นงาน โอกาสทำประตูเริ่มหาได้ยากจนกระทั่งลูกโขกของ โลร็องต์ กอสซิเอลนี่ย์ มาถูกสกัดจากเส้นโดย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ในนาทีที่ 61
ช่วงท้ายเกม ทั้ง อาร์แซน เวนเกอร์ และ เดวิด มอยส์ ต่างก็เปลี่ยนตัวเอาเด็กดาวรุ่งลงสนาม เป็นทางด้าน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ แอดนาน ยานูซาย ที่ได้ลงไปวาดลวดลาย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบที่จะปลดล็อคได้ในนาทีที่ 78 เมื่อลูกโขกของ ฟาน เพอร์ซี่ ถูกเซคเซสนี่ย์ ปัดไปชนคาน โดยจังหวะนี้มาจากการประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมของ ไมเคิล คาร์ริค กับ เวย์น รูนี่ย์
ช่วงท้ายเกม ซานติ กาซอร์ล่า ได้โอกาสยิงให้ เด เคอา ต้องงัดลูกเซฟสวยๆ ออกมาใช้ถึง 2 ครั้ง ซึ่งนั่นก็เท่ากับเป็นการเซฟให้ทีมปีศาจแดงได้แต้มกลับออกมาด้วยในท้ายที่สุด
สถิติ